แบบฝึกหัดที่ 2 จาก 6

การสร้างบริบทเป็นชั้นๆ

แบบฝึกหัดที่ 2: การสร้างบริบทเป็นชั้นๆ

Mr. DIY Thailand - เวิร์คช็อป Generative AI

วัตถุประสงค์: สัมผัสว่าการเพิ่มบริบทแต่ละชั้นทำให้คุณภาพดีขึ้นอย่างไร

📖 บริบทและสถานการณ์

เกี่ยวกับ Mr. DIY ประเทศไทย

Mr. DIY คือห่วงโซ่ร้านค้าปลีกที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทยที่เชี่ยวชาญด้านสินค้าปรับปรุงบ้าน เครื่องมือช่าง และสินค้าในครัวเรือน ตั้งแต่เข้าสู่ประเทศไทยในปี 2559 เราเติบโตเป็นมากกว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ พร้อมรายได้ปีละ 16.2 พันล้านบาท

คำมั่นสัญญาของแบรนด์:

  • “ราคาถูกเสมอ” - การวางตำแหน่งเน้นคุณค่า
  • สินค้ามากกว่า 15,000 รายการครอบคลุมสินค้าปรับปรุงบ้าน เครื่องมือช่าง สินค้าในครัวเรือน
  • ทางเลือกราคาประหยัดเทียบกับคู่แข่งระดับพรีเมียม (ราคาต่ำกว่า 20-30%)
  • ให้บริการเจ้าของบ้านที่ชอบทำ DIY ช่างรับเหมาขนาดเล็ก และผู้ซื้อที่คำนึงถึงงบประมาณ

สถานการณ์วันนี้

คุณกำลังช่วยทีมปฏิบัติการของ Mr. DIY สร้างคำแนะนำสินค้าด้วย AI สำหรับลูกค้า เป้าหมายของคุณคือเรียนรู้ว่าการเพิ่มบริบทธุรกิจที่เกี่ยวข้องทำให้คุณภาพและประโยชน์ของผลลัพธ์ AI ดีขึ้นอย่างไร

🎯 ภารกิจของคุณ

สร้างคำแนะนำสินค้าเพิ่มเติม (Cross-sell) ด้วย AI เพื่อเพิ่มมูลค่าตะกร้าสินค้าสำหรับลูกค้า Mr. DIY

บริบทของสถานการณ์:

  • สถานะของลูกค้า: ใส่สว่านไฟฟ้า (ราคา 899 บาท) ในตะกร้าสินค้าออนไลน์แล้ว
  • บทบาทของคุณ: คุณกำลังออกแบบคำแนะนำสินค้าสำหรับระบบแนะนำออนไลน์ของ Mr. DIY (แสดงผลที่หน้าชำระเงิน)
  • เป้าหมายทางธุรกิจ: สร้างคำแนะนำสินค้าเสริม 3-5 รายการที่เพิ่มมูลค่าการซื้อ 300-500 บาท พร้อมรักษาการวางตำแหน่ง “ราคาถูกเสมอ” ของ Mr. DIY
  • เกณฑ์ความสำเร็จ: ลูกค้าเพิ่มสินค้าเสริมที่ใช้งานได้จริง 2-3 ชิ้น ซึ่งเพิ่มมูลค่าตะกร้า 300-500 บาท
  • สิ่งที่คุณแนะนำ: อุปกรณ์เสริมและเครื่องมือที่ช่วยทำโปรเจ็กต์ของลูกค้าให้สำเร็จ (ไม่ใช่ขายตัวสว่านเอง)

คุณจะสร้าง prompt แบบเป็นขั้นตอนผ่าน 4 ชั้นบริบท และสังเกตการพัฒนาคุณภาพในแต่ละขั้น

🔑 หลักการสำคัญ

Principle 2: Context is King

บริบทที่ดีกว่า = คุณภาพที่ดีกว่า เสมอ

ยิ่งให้บริบทที่เกี่ยวข้องมากเท่าไหร่ AI ก็เข้าใจความต้องการและส่งมอบผลลัพธ์ที่มีคุณภาพสูงขึ้นเท่านั้น

📋 โครงสร้างกิจกรรม

  • 5 นาที: แนะนำและเตรียมพร้อม
  • 30 นาที: สร้างแบบค่อยเป็นค่อยไปผ่าน 4 ชั้นบริบท
  • 5 นาที: แบ่งปันเป็นคู่
  • 5 นาที: สรุปเป็นกลุ่มใหญ่
  • รูปแบบการทำงาน: คนเดียวหรือเป็นคู่ (เลือกเอง)
  • เครื่องมือ: ChatGPT หรือ Claude (ใช้แบบฟรีก็เพียงพอ)

ข้อควรทราบ

  • แนะนำให้เริ่มการสนทนาใหม่: เริ่มการสนทนาใหม่สำหรับแต่ละชั้นเพื่อดูผลกระทบเฉพาะของการเพิ่มบริบทแต่ละครั้ง
  • สนับสนุนให้ลองซ้ำ: ถ้าผลลัพธ์ของชั้นใดไม่น่าพอใจ ปรับปรุง prompt และลองใหม่
  • ต้องใช้ WiFi: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียร
  • การเข้าถึงเครื่องมือ AI: ใช้แบบฟรีของ ChatGPT หรือ Claude ก็เพียงพอ - ไม่ต้องมีการสมัครสมาชิกแบบเสียเงิน

🧱 4 ชั้นบริบท

🔄 LAYER 1: พื้นฐาน

เวลา: 5 นาที

⚠️ สำคัญ: เริ่มการสนทนาใหม่

เปิดหน้าต่างแชทใหม่ใน ChatGPT หรือ Claude สำหรับ Layer นี้

เริ่มต้นด้วย prompt พื้นฐานที่สุด ไม่มีบริบท มีแค่คำขอหลัก

Prompt ที่แนะนำ: “แนะนำสินค้าเสริมสำหรับลูกค้าที่เพิ่งใส่สว่านไฟฟ้าในตะกร้า”

คำแนะนำ:

  1. ส่ง prompt พื้นฐานนี้ไปยัง AI ที่คุณเลือก
  2. ตรวจสอบผลลัพธ์
  3. ให้คะแนนคุณภาพ: 1-5 ⭐ (1=แย่, 5=ดีเยี่ยม)
  4. บันทึกผลลัพธ์ในเวิร์คชีตของคุณ

📝 การสังเกต Layer 1:

หลังจากตรวจสอบผลลัพธ์ AI แล้ว ให้พิจารณา:

  • คุณได้รับคำแนะนำสินค้าเฉพาะเจาะจงอะไรบ้าง?
  • คำแนะนำเป็นแบบทั่วไปหรือเฉพาะเจาะจงกับสถานการณ์ของคุณ?
  • แสดงให้เห็นความเข้าใจในการวางตำแหน่งแบรนด์ของ Mr. DIY หรือไม่?

คะแนนคุณภาพ: ☐ 1 ☐ 2 ☐ 3 ☐ 4 ☐ 5

🔄 LAYER 2: เสียงแบรนด์ + ตำแหน่งราคา

เวลา: 8 นาที

⚠️ สำคัญ: เริ่มการสนทนาใหม่ (อย่าต่อจาก Layer 1)

เปิดหน้าต่างแชทใหม่ นี่คือการสนทนาแยกต่างหากเพื่อแสดงผลกระทบของบริบทที่เพิ่มเข้ามา

เพิ่มบริบทแบรนด์ Mr. DIY ลงใน prompt ของคุณ

บริบทที่ต้องเพิ่ม:

  • การวางตำแหน่งแบรนด์: “ราคาถูกเสมอ” - เน้นคุณค่า ใช้งานจริง เข้าถึงง่าย
  • โทนเสียง: เป็นมิตร ช่วยเหลือ คำนึงถึงงบประมาณ (ไม่หรูหรา ไม่ดูถูก)
  • ตำแหน่งราคา: ราคาประหยัด โดยทั่วไปต่ำกว่าคู่แข่ง premium อย่าง HomePro 20-30%

ตัวอย่าง prompt ใหม่: “ในฐานะ Mr. DIY (ร้านค้าปลีกสินค้าปรับปรุงบ้านราคาประหยัดที่มีการวางตำแหน่ง ‘ราคาถูกเสมอ’) ให้แนะนำสินค้าเสริมเพื่อขายเพิ่ม (upsell) ให้กับลูกค้าที่เพิ่งใส่สว่านไฟฟ้าในตะกร้า คำแนะนำควรเน้นคุณค่าและความใช้งานจริงเพื่อเพิ่มมูลค่าตะกร้า”

คำแนะนำ:

  1. ปรับ prompt ใหม่ให้มีบริบทแบรนด์
  2. ส่งไปยัง AI
  3. เปรียบเทียบกับผลลัพธ์ Layer 1
  4. ให้คะแนนคุณภาพ: 1-5 ⭐
  5. จดว่าอะไรดีขึ้น

📝 การสังเกต Layer 2:

หลังจากตรวจสอบผลลัพธ์ AI แล้ว ให้พิจารณา:

  • การเพิ่มบริบทแบรนด์ทำให้คำแนะนำเปลี่ยนแปลงอย่างไร?
  • คำแนะนำสะท้อนการวางตำแหน่ง “ราคาถูกเสมอ” ของ Mr. DIY หรือไม่?
  • โทนเสียงสอดคล้องกับค่านิยมที่คำนึงถึงงบประมาณและใช้งานจริงมากขึ้นหรือไม่?

คะแนนคุณภาพ: ☐ 1 ☐ 2 ☐ 3 ☐ 4 ☐ 5

สะท้อนความคิด: อะไรดีขึ้นด้วยชั้นบริบทนี้?

  • คิดถึงความแตกต่างเฉพาะเจาะจงที่คุณสังเกตเห็นเมื่อเทียบกับ Layer 1

🔄 LAYER 3: ลูกค้าเป้าหมาย + บริบทตามฤดูกาล

เวลา: 8 นาที

⚠️ สำคัญ: เริ่มการสนทนาใหม่ (อย่าต่อจาก Layer 2)

เปิดหน้าต่างแชทใหม่ นี่คือการสนทนาแยกต่างหากเพื่อแสดงผลกระทบของบริบทที่เพิ่มเข้ามา

เพิ่มโปรไฟล์ลูกค้าและบริบทตามฤดูกาลเพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวข้องมากขึ้น

บริบทที่ต้องเพิ่ม:

โปรไฟล์ลูกค้าเป้าหมาย:

  • เจ้าของบ้านที่ชอบทำ DIY (อายุ 30-50 ปี)
  • ช่างรับเหมาขนาดเล็กและช่างทั่วไป
  • คนที่คำนึงถึงงบประมาณและมองหาสินค้าคุ้มค่า
  • มักต้องการสินค้าเสริมสำหรับโปรเจ็กต์ซ่อมแซมบ้าน

บริบทตามฤดูกาล:

  • ฤดูกาลปัจจุบัน: ฤดูฝน (กรกฎาคม-ตุลาคม)
  • ผลกระทบ: ความต้องการซ่อมแซมบ้านเพิ่มขึ้น (รั่วซึม เชื้อรา ความเสียหายจากน้ำ)
  • ความคิดของลูกค้า: แก้ปัญหา ป้องกันความเสียหายจากน้ำ
  • ประเภทโปรเจ็กต์: ซ่อมหลังคา ระบายน้ำ กันซึม กำจัดเชื้อรา

ตัวอย่าง prompt ใหม่: “ในฐานะ Mr. DIY ให้แนะนำสินค้าเสริมเพื่อขายเพิ่ม (upsell) ให้กับลูกค้าที่เพิ่งใส่สว่านไฟฟ้าในตะกร้า ลูกค้าเป้าหมายคือเจ้าของบ้านที่ชอบทำ DIY (อายุ 30-50 ปี) และช่างรับเหมาขนาดเล็กที่คำนึงถึงงบประมาณ ขณะนี้เป็นฤดูฝน (ก.ค.-ต.ค.) ดังนั้นการซ่อมแซมบ้านจึงพบได้บ่อย - เน้นสินค้าเสริมที่มีประโยชน์สำหรับโปรเจ็กต์บ้านในช่วงฤดูฝนเช่น การซ่อมหลังคาและการกันซึมเพื่อเพิ่มมูลค่าตะกร้า”

คำแนะนำ:

  1. ปรับ prompt ให้มีบริบทลูกค้าและฤดูกาล
  2. ส่งไปยัง AI
  3. เปรียบเทียบกับผลลัพธ์ Layer 2
  4. ให้คะแนนคุณภาพ: 1-5 ⭐
  5. จดว่าอะไรดีขึ้น

📝 การสังเกต Layer 3:

หลังจากตรวจสอบผลลัพธ์ AI แล้ว ให้พิจารณา:

  • คำแนะนำเกี่ยวข้องกับบริบทฤดูฝนมากขึ้นหรือไม่?
  • ตอบสนองความต้องการเฉพาะของลูกค้า (เจ้าของบ้านที่ชอบทำ DIY, ช่างรับเหมาขนาดเล็ก) หรือไม่?
  • การเข้าใจบริบทตามฤดูกาลช่วยปรับปรุงความเกี่ยวข้องของผลิตภัณฑ์อย่างไร?

คะแนนคุณภาพ: ☐ 1 ☐ 2 ☐ 3 ☐ 4 ☐ 5

สะท้อนความคิด: อะไรดีขึ้นด้วยชั้นบริบทนี้?

  • คิดถึงว่าโปรไฟล์ลูกค้าและปัจจัยตามฤดูกาลเปลี่ยนแปลงคำแนะนำอย่างไร

🔄 LAYER 4: ข้อมูล Inventory + ข้อมูลคู่แข่ง

เวลา: 9 นาที

⚠️ สำคัญ: เริ่มการสนทนาใหม่ (อย่าต่อจาก Layer 3)

เปิดหน้าต่างแชทใหม่ นี่คือการสนทนาแยกต่างหากเพื่อแสดงผลกระทบของบริบทที่เพิ่มเข้ามา

เพิ่มข้อจำกัดทางธุรกิจในโลกแห่งความเป็นจริง: ระดับสินค้าคงคลังปัจจุบันและตำแหน่งเทียบกับคู่แข่ง

บริบทที่ต้องเพิ่ม:

ระดับสินค้าคงคลังปัจจุบัน:

  • สว่านไฟฟ้า: 50 ตัว (สต็อกดี) - แนะนำได้อย่างมั่นใจ
  • เครื่องขัดกระดาษทราย: 30 ตัว (สต็อกปานกลาง) - แนะนำได้แต่ต้องระบุความพร้อม
  • เลื่อยไฟฟ้า: สต็อกจำกัด (เหลือแค่ 8 ตัว) - สร้างความเร่งด่วน
  • ดอกสว่านและอุปกรณ์เสริม: สต็อกสูง (200+ ชิ้น) - ผลักดันอย่างแรง
  • อุปกรณ์ความปลอดภัย: สต็อกสูง (ถุงมือ แว่นตา หน้ากาก)

ข้อมูลคู่แข่ง:

  • HomePro: มุ่งเน้นแบรนด์ระดับพรีเมียม (Bosch, Makita) ราคาสูงกว่า
  • จุดแข็ง Mr. DIY: แบรนด์คุ้มค่าคุณภาพดีในราคาต่ำกว่า 20-30%
  • เหตุผลที่ลูกค้าเปลี่ยนมา: ผู้ซื้อที่คำนึงถึงราคาเลือก Mr. DIY เพื่อตัวเลือกราคาประหยัด
  • กลยุทธ์คำแนะนำ: เน้นคุณค่า ดีลแบบมัดรวม กรณีการใช้งานจริง

ตัวอย่าง prompt ใหม่: “ในฐานะ Mr. DIY ให้แนะนำสินค้าเสริมเพื่อขายเพิ่ม (upsell) ให้กับลูกค้าที่เพิ่งใส่สว่านไฟฟ้าในตะกร้า (เรามีสต็อกสว่าน 50 ตัว) ลูกค้าเป้าหมายคือเจ้าของบ้านที่ชอบทำ DIY และช่างรับเหมาขนาดเล็กที่คำนึงถึงงบประมาณในช่วงฤดูฝน พิจารณาสินค้าคงคลังของเราเพื่อเพิ่มยอดขาย: เครื่องขัดกระดาษทราย (30 ตัว - ปานกลาง) เลื่อยไฟฟ้า (8 ตัว - สต็อกจำกัด สร้างความเร่งด่วน!) ดอกสว่านและอุปกรณ์เสริม (200+ ชิ้น - ผลักดันแรงเพราะกำไรสูง) อุปกรณ์ความปลอดภัย (สต็อกสูง) จุดแข็งของเราเทียบกับ HomePro คือราคาต่ำกว่า 20-30% สำหรับเครื่องมือคุณภาพดี เน้นชุดมัดรวมคุ้มค่าและการใช้งานจริงในช่วงฤดูฝนเพื่อเพิ่มมูลค่าตะกร้าเฉลี่ย”

คำแนะนำ:

  1. เพิ่มบริบท inventory และคู่แข่งลงใน prompt
  2. ส่งไปยัง AI
  3. เปรียบเทียบกับผลลัพธ์ Layer 3 - สังเกตคำแนะนำเชิงกลยุทธ์
  4. ให้คะแนนคุณภาพ: 1-5 ⭐
  5. จดว่าอะไรดีขึ้น - มองหาความเร่งด่วน การมัดรวม คำแนะนำเชิงกลยุทธ์

📝 การสังเกต Layer 4:

หลังจากตรวจสอบผลลัพธ์ AI แล้ว ให้พิจารณา:

  • คำแนะนำแสดงความคิดเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับการจัดการสินค้าคงคลังหรือไม่?
  • มีการสร้างความเร่งด่วนสำหรับสินค้าที่มีสต็อกจำกัดหรือไม่?
  • อุปกรณ์เสริมที่มีสต็อกสูงถูกผลักดันอย่างโดดเด่นขึ้นหรือไม่?
  • คำแนะนำใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบในการแข่งขันของ Mr. DIY เทียบกับ HomePro หรือไม่?

คะแนนคุณภาพ: ☐ 1 ☐ 2 ☐ 3 ☐ 4 ☐ 5

สะท้อนความคิด: อะไรดีขึ้นด้วยชั้นบริบทนี้?

  • สังเกตว่าข้อจำกัดทางธุรกิจช่วยผลักดันคำแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ลงมือได้จริงมากขึ้นอย่างไร

📊 สรุปการพัฒนาคุณภาพ

ทบทวนคะแนนคุณภาพของคุณทั้ง 4 ชั้น คุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่

Layer คะแนนของคุณ
Layer 1 (พื้นฐาน) ⭐ ___
Layer 2 (แบรนด์) ⭐ ___
Layer 3 (ลูกค้า + ฤดูกาล) ⭐ ___
Layer 4 (Inventory + คู่แข่ง) ⭐ ___

💬 การแชร์เป็นคู่

เวลา: 5 นาที

หาคู่อื่น (หรือบุคคลอื่น) และพูดคุย:

  1. ชั้นบริบทไหนมี impact มากที่สุดต่อคุณภาพ?
  2. เปรียบเทียบคะแนนคุณภาพ: ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอหรือไม่
  3. คุณเห็นการพัฒนาเฉพาะเจาะจงอะไรบ้างในแต่ละชั้น?
  4. บริบทไหนที่สำคัญที่สุดสำหรับงานของคุณที่ Mr. DIY?

🎤 สรุปกลุ่มใหญ่

เวลา: 5 นาที

เตรียมพร้อมที่จะแชร์ความเข้าใจกับกลุ่มใหญ่ อาจารย์จะถาม:

  • “ยกมือขึ้น: ใครที่ผลลัพธ์ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในแต่ละชั้น”
  • “ชั้นบริบทไหนมี impact มากที่สุด ทำไม”
  • “ในงานของคุณที่ Mr. DIY บริบทอะไรจะมีคุณค่ามากที่สุดที่ควรรวมเข้าไป”

จะมีการเลือก 2 คู่เพื่อแชร์ตัวอย่างกับกลุ่มใหญ่

📋 Prompt ที่นำกลับไปใช้ได้

เทมเพลต 4 ชั้นบริบท

นี่คือเทมเพลตที่นำกลับไปใช้ได้สำหรับสร้าง prompt ที่อุดมด้วยบริบทในงานของคุณ คัดลอกและปรับแต่งตามความต้องการเฉพาะของคุณ

LAYER 1: งานพื้นฐาน
[ระบุคำขอหลักของคุณอย่างชัดเจน]

LAYER 2: เสียงแบรนด์และการวางตำแหน่ง
- แบรนด์: [ชื่อบริษัท/แผนกของคุณ]
- การวางตำแหน่ง: [คุณค่าที่นำเสนอ จุดแข็งหลัก]
- โทนเสียง: [สไตล์การสื่อสารที่ต้องการ]
- ระดับราคา/คุณภาพ: [ตำแหน่งของคุณเทียบกับคู่แข่ง]

LAYER 3: ผู้ชมเป้าหมายและบริบท
- ผู้ชมเป้าหมาย: [ใครจะได้รับ/ใช้สิ่งนี้?]
- บริบทปัจจุบัน: [ปัจจัยตามฤดูกาล เวลา สถานการณ์]
- ความคิดของผู้ชม: [พวกเขากำลังคิด/รู้สึกอะไร?]
- กรณีการใช้งานที่เกี่ยวข้อง: [สถานการณ์เฉพาะที่นำไปใช้]

LAYER 4: ข้อจำกัดทางธุรกิจและข้อมูล
- ข้อจำกัดทรัพยากร: [สินค้าคงคลัง งบประมาณ เวลา บุคลากร]
- ภูมิทัศน์การแข่งขัน: [คู่แข่งหลัก ข้อได้เปรียบของคุณ]
- ลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์: [อะไรสำคัญที่สุดตอนนี้?]
- เกณฑ์ความสำเร็จ: [คุณจะวัดความสำเร็จอย่างไร?]

คำขอ: รวมทุกชั้นข้างต้นเพื่อ [งานเฉพาะของคุณ]

ตัวอย่าง: คำแนะนำสินค้า Mr. DIY

LAYER 1: งานพื้นฐาน
แนะนำสินค้าสำหรับลูกค้าที่ซื้อสว่านไฟฟ้า

LAYER 2: เสียงแบรนด์และการวางตำแหน่ง
- แบรนด์: Mr. DIY
- การวางตำแหน่ง: "ราคาถูกเสมอ" - เน้นคุณค่า ใช้งานจริง เข้าถึงง่าย
- โทนเสียง: เป็นมิตร ช่วยเหลือ คำนึงถึงงบประมาณ
- ระดับราคา: ต่ำกว่าคู่แข่ง premium อย่าง HomePro 20-30%

LAYER 3: ผู้ชมเป้าหมายและบริบท
- ผู้ชมเป้าหมาย: เจ้าของบ้านที่ชอบทำ DIY (อายุ 30-50 ปี) ช่างรับเหมาขนาดเล็ก
- บริบทปัจจุบัน: ฤดูฝน (กรกฎาคม-ตุลาคม)
- ความคิดของลูกค้า: แก้ปัญหาความเสียหายจากน้ำ ป้องกันรั่วซึม
- กรณีการใช้งาน: ซ่อมหลังคา กันซึม โปรเจ็กต์ระบายน้ำ

LAYER 4: ข้อจำกัดทางธุรกิจและข้อมูล
- สินค้าคงคลัง: สว่าน (50 ตัว) เครื่องขัด (30) เลื่อย (8 - จำกัด!)
  ดอกสว่าน (200+) อุปกรณ์ความปลอดภัย (สต็อกสูง)
- การแข่งขัน: HomePro มุ่งเน้นแบรนด์ระดับพรีเมียมราคาสูงกว่า
- ลำดับความสำคัญ: ผลักดันอุปกรณ์เสริมสต็อกสูง สร้างความเร่งด่วนสำหรับ
  สินค้าจำกัด
- เกณฑ์ความสำเร็จ: อัตราการแนบมัดรวม มูลค่าธุรกรรมเฉลี่ย

คำขอ: สร้างคำแนะนำสินค้าที่เน้นชุดมัดรวมคุ้มค่า สร้างความเร่งด่วนสำหรับสต็อกจำกัด
และสอดคล้องกับความต้องการในช่วงฤดูฝน

✅ เช็คลิสต์คุณภาพ

ใช้เช็คลิสต์นี้เพื่อประเมินว่า prompt ที่มีบริบทเป็นชั้นๆ ของคุณพร้อมใช้ในงานจริงหรือไม่

เกณฑ์การประเมินตนเอง

สำหรับแต่ละชั้น ตรวจสอบว่า prompt ของคุณมี:

LAYER 1 - งานพื้นฐาน:

  • ☐ คำขอชัดเจนเฉพาะเจาะจง (ไม่คลุมเครือ)
  • ☐ เข้าใจได้โดยคนที่ไม่คุ้นเคยกับงานของคุณ

LAYER 2 - เสียงแบรนด์:

  • ☐ ระบุอัตลักษณ์แบรนด์อย่างชัดเจน
  • ☐ ระบุโทน/เสียง (เป็นทางการ สบายๆ เป็นมิตร ฯลฯ)
  • ☐ กล่าวถึงการวางตำแหน่งคุณค่า (พรีเมียม งบประมาณ ปานกลาง)
  • ☐ รวมจุดแข็งหลัก

LAYER 3 - ผู้ชมเป้าหมาย:

  • ☐ กำหนดผู้ชมเฉพาะเจาะจง (ไม่ใช่ “ทุกคน”)
  • ☐ บริบทตามเวลาที่เกี่ยวข้อง (ฤดูกาล เวลา เหตุการณ์)
  • ☐ อธิบายความคิด/ความต้องการของผู้ชม
  • ☐ ให้กรณีการใช้งานหรือสถานการณ์

LAYER 4 - ข้อจำกัดทางธุรกิจ:

  • ☐ ระบุข้อจำกัดทรัพยากร (สินค้าคงคลัง งบประมาณ เวลา)
  • ☐ กล่าวถึงภูมิทัศน์การแข่งขัน
  • ☐ ระบุลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์
  • ☐ กำหนดเกณฑ์ความสำเร็จ

สัญญาณเตือนคุณภาพ

ผลลัพธ์ของคุณอาจต้องการปรับปรุงหาก:

  • ❌ คำแนะนำทั่วไปที่ใช้ได้กับบริษัทใดๆ
  • ❌ ไม่มีการกล่าวถึงอัตลักษณ์หรือคุณค่าของแบรนด์
  • ❌ เพิกเฉยข้อจำกัดทรัพยากร (แนะนำสินค้าที่หมดสต็อก)
  • ❌ ไม่สะท้อนความต้องการของผู้ชมเป้าหมาย
  • ❌ พลาดความเกี่ยวข้องตามฤดูกาลหรือเวลา
  • ❌ ไม่แตกต่างจากคู่แข่ง
  • ❌ ไม่มีกลยุทธ์ธุรกิจที่นำไปปฏิบัติได้

ต้องการปรับปรุง?

ถ้าคุณเช็คได้น้อยกว่า 3 รายการต่อชั้น: → เพิ่มบริบทมากขึ้นในชั้นนั้นและสร้างใหม่

ถ้าคุณเห็นสัญญาณเตือน 2+ รายการ: → ทบทวนชั้นบริบทของคุณและเพิ่มรายละเอียดธุรกิจที่ขาดหายไป

ถ้าคะแนนคุณภาพต่ำกว่า 4 ดาว: → ระบุว่าชั้นบริบทไหนอ่อนที่สุดและเสริมแรงให้มัน

❓ ต้องการความช่วยเหลือ?

ปัญหาที่พบบ่อยและวิธีแก้

ปัญหา: ผลลัพธ์ AI ยังคงเป็นทั่วไปแม้จะมีครบทั้ง 4 ชั้น

  • ✓ วิธีแก้: ทำให้บริบทเฉพาะเจาะจงมากขึ้น (ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์จริง ตัวเลขเฉพาะ ชื่อคู่แข่งจริง)
  • ✓ ลอง: เพิ่มตัวอย่างหนึ่งตัวอย่างของสิ่งที่ “ดี” มีลักษณะอย่างไร

ปัญหา: ผลลัพธ์ไม่สะท้อนเสียงแบรนด์ Mr. DIY

  • ✓ วิธีแก้: ระบุอย่างชัดเจน “ใช้โทนเป็นมิตร คำนึงถึงงบประมาณ” ใน prompt
  • ✓ ลอง: เพิ่มวลีเฉพาะที่ Mr. DIY ใช้ (เช่น “ราคาถูกเสมอ”)

ปัญหา: คำแนะนำเพิกเฉยข้อจำกัดสินค้าคงคลัง

  • ✓ วิธีแก้: ใส่ตัวเลขสินค้าคงคลังเป็นตัวพิมพ์ใหญ่หรือตัวหนาเพื่อเน้น
  • ✓ ลอง: ขออย่างชัดเจน “จัดลำดับความสำคัญสินค้าที่มีสต็อกสูง”

ปัญหา: ไม่เห็นความแตกต่างมากนักระหว่างชั้น

  • ✓ วิธีแก้: คุณอาจเริ่ม Layer 1 ที่อุดมด้วยบริบทเกินไป ลอง Layer 1 ที่พื้นฐานกว่า
  • ✓ ลอง: เริ่ม Layer 1 ด้วยแค่ 5-7 คำ

ปัญหา: AI แนะนำสินค้าที่ Mr. DIY ไม่ได้ขาย

  • ✓ วิธีแก้: เพิ่ม “แนะนำเฉพาะสินค้าที่ขายทั่วไปในร้านเครื่องมือช่าง/ปรับปรุงบ้าน”
  • ✓ ลอง: ระบุหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่าย

ปัญหา: เวลาไม่พอ

  • ✓ วิธีแก้: เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ ทำ 2-3 ชั้นให้ดีกว่ารีบทำทั้ง 4 ชั้น
  • ✓ ข้าม: การจดบันทึกโดยละเอียด แค่ให้คะแนนและสังเกตความแตกต่างหลักๆ

🆘 ยังติดอยู่?

  • ยกมือขึ้นแล้วอาจารย์จะมาช่วย

✅ คำถามสะท้อนความคิด

หลังจากทำครบทั้ง 4 ชั้นแล้ว ให้ใคร่ครวญประสบการณ์ของคุณ:

1. ชั้นบริบทไหนที่ทำให้คุณประหลาดใจมากที่สุด?

  • คิดถึงชั้นใดที่สร้างการพัฒนาคุณภาพผลลัพธ์ที่มากที่สุด

2. คุณจะนำการสร้างบริบทเป็นชั้นๆ ไปใช้กับงานของคุณที่ Mr. DIY อย่างไร?

  • พิจารณางานเฉพาะเจาะจงที่การเพิ่มชั้นบริบทสามารถปรับปรุงผลลัพธ์ AI ได้
  • บริบทประเภทใดเกี่ยวข้องกับบทบาทของคุณมากที่สุด?

3. ถ้าคุณสามารถเพิ่มได้เพียง 1 ชั้นบริบทเนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลา คุณจะเลือกชั้นไหนและทำไม?

  • ชั้นบริบทใดให้คุณค่าสูงสุดสำหรับความพยายามที่ลงทุนไป?
  • ตัวเลือกของคุณขึ้นอยู่กับงานที่ต้องทำอย่างไร?

🔑 บทเรียนสำคัญ

บริบทคือราชา

บริบทที่ดีกว่า = คุณภาพที่ดีกว่า เสมอ

ยิ่งให้บริบทที่เกี่ยวข้องมากเท่าไหร่ AI ก็เข้าใจความต้องการของคุณมากขึ้นเท่านั้น

หลักการนี้ใช้กับ:

  • ✓ การสร้างเนื้อหาการตลาด
  • ✓ การวางแผนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
  • ✓ การสื่อสารกับลูกค้า
  • ✓ คำแนะนำสินค้า
  • ✓ งานธุรกิจใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับ AI

ชั้นบริบทที่คุณสามารถใช้ในงานของคุณ:

  • เสียงแบรนด์และการวางตำแหน่ง
  • โปรไฟล์ผู้ชมเป้าหมาย
  • บริบทตามฤดูกาลหรือเวลา
  • ข้อจำกัดทางธุรกิจ (สินค้าคงคลัง งบประมาณ ทรัพยากร)
  • ภูมิทัศน์การแข่งขัน
  • วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์

🚀 ขั้นตอนต่อไป

ต่อไปเราจะเรียนรู้วิธี ปรับแต่ง ผลลัพธ์ของ AI สำหรับโทน ความละเอียด และความแม่นยำผ่านการปรับปรุงแบบสนทนาในแบบฝึกหัดที่ 3

เอกสารเวิร์คช็อป เวิร์คช็อป Generative AI ของ Mr. DIY ประเทศไทย แบบฝึกหัดที่ 2: การสร้างบริบทเป็นชั้นๆ

← แบบฝึกหัดก่อนหน้า กลับหน้าหลัก แบบฝึกหัดถัดไป →